Passive Fund ลงทุนง่ายจริงไหม ผลตอบแทนคุ้มไหมลองมาดู

Passive Fund
Categories:

กองทุนรวมที่บริหารแบบเชิงรับ หรือ Passive Fund เป็นกองทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงหรือคล้ายคลึงกับดัชนีที่ใช้อ้างอิงมากที่สุด นับเป็นหนึ่งในกองทุนที่ทำความเข้าใจได้ง่าย เหมาะสำหรับใช้เป็นเครื่องมือสำหรับสะสมผลตอบแทนในระยะยาว อีกทั้งยังเหมาะกับนักลงทุนทุกคน โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ ที่ต้องการเริ่มต้นสร้างพอร์ตเป็นของตัวเอง จึงเป็นที่มาของการพูดคุยกันในวันนี้ว่า การลงทุนที่เรียบง่ายจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่ และนักลงทุนมือใหม่จะสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายจริงหรือ เราไปรับทราบข้อมูลเหล่านี้พร้อมกัน

3 ปัจจัยที่ทำให้กองทุนแบบ Passive Fund สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่าย

คำกล่าวที่ว่า กองทุนที่บริหารจัดการแบบ Passive Fund เป็นกองทุนที่ลงทุนได้ง่าย แม้แต่นักลงทุนมือใหม่ที่เข้าใจเพียงพื้นฐานการลงทุน ก็สามารถเข้าร่วมลงทุนได้ เกิดจากปัจจัยที่เป็นลักษณะเฉพาะของรูปแบบการบริหารจัดการกองทุนเชิงรับ ที่ลดความซับซ้อนในการลงทุนลง จึงช่วยให้นักลงทุนใช้เวลาศึกษาไม่นาน และเริ่มต้นลงทุนได้ทันที เราจึงจะมาเจาะลึกกันว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้กองทุนแบบเชิงรับเป็นการเริ่มต้นลงทุนที่ง่ายดาย

  1. ไม่มีความซับซ้อน

ความซับซ้อนในที่นี้หมายความว่า กองทุนแบบ Passive Fund จะมีนโยบายการลงทุนในหุ้นตามที่ดัชนีใช้อ้างอิงเท่านั้น ผู้จัดการกองทุนจึงไม่ต้องคัดเลือกหุ้นรายตัวเพื่อให้ได้หุ้นพื้นฐานดี หรือหุ้นที่มีโอกาสเติบโต กองทุนเพียงแค่เลือกดัชนีที่ต้องการอ้างอิง และดำเนินการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาประเมินมูลค่าของดัชนี (Benchmark) ไม่ว่าจะเป็นกำไรหรือขาดทุน จึงถือว่าเป็นการลงทุนที่ตรงไปตรงมา ไม่มีความซับซ้อน สามารถศึกษาและเริ่มต้นลงทุนได้ง่าย

  1. มีค่าธรรมเนียมต่ำ

เมื่อกองทุนไม่ต้องมีการคัดเลือกหุ้น และไม่ต้องคิดหากลยุทธ์เพื่อเอาชนะตลาด ผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยบริหารกองทุนจึงมีจำนวนไม่มาก ทำให้ค่าธรรมเนียมมีราคาถูก เมื่อเทียบกับกองทุนที่บริหารแบบหากลยุทธ์เพื่อเอาชนะตลาด และการที่กองทุนมีค่าธรรมเนียมต่ำ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้อย่างสบายใจ

  1. มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี

ความเสี่ยงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อต้องการลงทุน แม้แต่กองทุนที่บริหารแบบ Passive Fund ก็เช่นเดียวกัน ที่ความเสี่ยงจะผันผวนไปตามดัชนีอ้างอิง แตกต่างกันตรงที่การเข้าลงทุนตามหุ้นที่ประกอบเป็นดัชนี จะเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงไปสู่หุ้นต่าง ๆ อย่าง SET Index ของประเทศไทย ก็มีทั้ง SET50 Index และ SET100 Index จึงเท่ากับว่าความเสี่ยงได้ถูกกระจายไปสู่หุ้น 50 ตัว หรือ 100 ตัวในหลากหลายอุตสาหกรรม ดังนั้นเมื่อเลือกกองทุนแบบ Passive Fund นักลงทุนควรเลือกความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้ จึงจะคุ้มค่าการลงทุน

PassiveFund

ดังนั้นในเรื่องความง่ายสำหรับการลงทุนกับกองทุนแบบ Passive Fund จึงสามารถยืนยันได้ว่า สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายจริง เพียงแต่นักลงทุนต้องศึกษานโยบายของกองทุนให้เข้าใจก่อนการลงทุนทุกครั้ง และที่สำคัญคือควรเลือกกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ และมีความเสี่ยงที่สอดคล้องกับความต้องการของตัวเองเป็นหลัก

ความคุ้มค่าในผลตอบแทน เมื่อเลือกลงทุนในกองทุนแบบ Passive Fund

มาถึงเรื่องความคุ้มค่าในด้านผลตอบแทนของกองทุนแบบ Passive Fund ด้วยความที่กองทุนลงทุนในหุ้นที่ประกอบเป็นดัชนีอ้างอิง บวกกับนโยบายการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาประเมินมูลค่าของดัชนี จึงทำให้ผลตอบแทนจากการดำเนินงานจะเป็นไปตามกลไกของตลาด สามารถอธิบายได้ง่าย ๆ ว่า ไม่ว่าดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนก็จะปรับเปลี่ยนไปตามนั้นด้วย ดังนั้นนักลงทุนจึงจะได้พบทั้งภาวะกำไร และขาดทุน เช่นเดียวกับดัชนีอ้างอิง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการลงทุน

และเมื่อถามว่า แบบนี้จะคุ้มค่าหรือ เรื่องนี้วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) นักลงทุนระดับโลกได้เคยกล่าวแนะนำนักลงทุนมือใหม่เอาไว้ว่า ควรเริ่มต้นลงทุนในกองทุนดัชนี ที่บริหารแบบ Passive Fund และให้ทำการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพราะในระยะยาวจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสะสมที่มีความคุ้มค่า อีกทั้งกองทุนประเภทนี้ยังมีค่าธรรมเนียมต่ำ นักลงทุนมือใหม่จึงควรซื้อและเก็บเอาไว้ลงทุนระยะยาว ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นคำตอบที่ดีว่า หากคาดหวังผลตอบแทนที่มีความคุ้มค่า ควรถือครองกองทุนประเภทนี้แบบระยะยาว 

และประเด็นสำคัญที่นักลงทุนต้องไม่ลืมคือ ถึงแม้กองทุนประเภทนี้จะให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง แต่ตัวดัชนีนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนตัวกองทุนมีค่าใช้จ่ายคือ ค่าธรรมเนียม ดังนั้นผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ จึงมีความแตกต่างจากผลตอบแทนของดัชนี เพราะกองทุนต้องทำการหักค่าใช้จ่ายก่อน จึงเป็นที่มาของการพิจารณาเลือกกองทุนทุกครั้ง จะต้องดูที่ค่าธรรมเนียมประกอบด้วย

กองทุน Passive Fund เป็นกองทุนที่เริ่มต้นลงทุนได้ง่าย และให้ผลตอบแทนที่เป็นไปตามกลไกของตลาด โดยความคุ้มค่าของกองทุนประเภทนี้ คือ มีค่าธรรมเนียมต่ำ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว นักลงทุนไม่ต้องเครียดกับความผันผวนที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในตลาด อีกทั้งนักลงทุนมือใหม่ก็สามารถเริ่มต้นกับกองทุนนี้ประเภทนี้ได้ หรือแม้แต่มนุษย์เงินเดือนหากพอมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการลงทุน ก็เริ่มต้นศึกษารายละเอียดของกองทุนได้ไม่ยาก